ในเอกภพเต็มไปด้วยปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ “เฮอร์บิก-ฮาโร” (Herbig-Haro Object หรือ HH) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้ยาก
เฮอร์บิก-ฮาโร เป็นพื้นที่เรืองแสงรอบ ๆ ดาวฤกษ์เกิดใหม่ มักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีการก่อตัวของดาวฤกษ์ดวงใหม่เท่านั้น เกิดจากการที่ดาวฤกษ์เกิดใหม่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงและปลดปล่อยลำแก๊สออกมาอย่างรวดเร็ว ปะทะกับเมฆฝุ่นและแก๊สที่อยู่รอบ ๆ
นาซารายงานพบหลักฐาน อาจมีมหาสมุทรอยู่บนดาวเคราะห์ “K2-18 b”
นักวิทย์สร้าง “แผนที่ดาวอังคาร” เตรียมพร้อมสำหรับตั้งถิ่นฐานบนดาวสีแดง
นักวิทย์พบ “ฟองกาแล็กซี” คาดเป็นฟอสซิลที่เหลือจาก “บิ๊กแบง”
เฮอร์บิก–อาโรเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว กินระยะเวลาเพียงไม่กี่พันปี และจากนั้นจะสลายตัวหายไปในสสารระหว่างดวงดาวในที่สุด
ที่ผ่านมา เคยมีการใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลในการศึกษาเฮอร์บิก-ฮาโรมาแล้ว โดยครั้งนั้นเป็น HH111 แต่ล่าสุด กล้องโทรทรรศน์อวกาศ เจมส์ เว็บบ์ (JWST) ได้ถ่ายภาพเฮอร์บิก-ฮาโรอีกแห่ง นั่นคือ HH211
HH211 เกิดขึ้นบริเวณดาวแรกกำเนิดดวงหนึ่งที่มีอายุไม่เกิน 2-3 หมื่นปี โดยยังมีมวลเพียง 8% ของดวงอาทิตย์ของเราเท่านั้น
การถ่ายภาพด้วยกล้องอินฟราเรดของ เจมส์ เว็บบ์ มีประสิทธิภาพมากในการศึกษาดาวฤกษ์แรกเกิดและลำแก๊ซที่ปล่อยออกมา เนื่องจากดาวฤกษ์เกิดใหม่เหล่านี้มักจมอยู่ในเมฆฝุ่นแก๊ส ขณะที่กล้องของ เจมส์ เว็บบ์ สามารถทะลุทะลวงผ่านก๊าซและฝุ่นได้ ทำให้วัตถุเฮอร์บิก-ฮาโรอย่าง HH 211 เหมาะสำหรับการสังเกตการณ์ด้วยเครื่องมืออินฟราเรดที่ไวต่อแสงของ เจมส์ เว็บบ์ อย่างมาก
ภาพที่ถ่ายได้นี้ แสดงให้เห็นว่า ที่ด้านซ้ายล่างและขวาบนของเฮอร์บอก-ฮาโร เกิดสิ่งที่เรียกว่า “โบว์ช็อก” (Bow Shock) หรือการที่สนามแม่เหล็กของวัตถุทางดาราศาสตร์ใด ๆ มีปฏิสัมพันธ์กับพลาสมาโดยรอบที่ไหลอยู่ใกล้เคียง เช่น ลมสุริยะคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เจมส์ เว็บบ์ เผยให้เห็นรายละเอียดเหล่านี้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ความละเอียดเชิงพื้นที่สูงกว่าภาพ HH211 ที่กล้องอื่นเคยถ่ายได้ก่อนหน้านี้ประมาณ 5-10 เท่า
เรียบเรียงจาก NASA
ภาพจาก ESA/Webb, NASA, CSA, T. Ray (Dublin Institute for Advanced Studies)