จากกรณี กรุงเทพมหานครมีรายได้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับภาษีโรงเรือนและที่ดินที่เคยจัดเก็บได้
นายวุฒิพงศ์จิตตั้งสกุลที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวจากสื่อหลาย ๆ แห่งว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.)จัดเก็บรายได้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภาษีที่ดินฯ) ได้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ภาษีโรงเรือนและที่ดิน(ภาษีโรงเรือนฯ)ที่กรุงเทพมหานครเคยจัดเก็บได้ในอดีต และพบว่าผู้ที่มีรายได้มาก เช่น ห้างสรรพสินค้าอาคารสำนักงาน ห้องเช่า เป็นต้น เสียภาษีที่ดินฯ ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับภาษีโรงเรือนฯ นั้น
โฆษก สศค.ขอเรียนอธิบายความเป็นมาและสถิติการจัดเก็บรายได้เกี่ยวกับภาษีที่ดินฯ ในช่วงที่ผ่านมารวมทั้งข้อเท็จจริงในส่วนของกรุงเทพมหานคร ดังนี้
1.ในช่วงก่อนปี2563ประเทศไทยมีการจัดเก็บภาษีจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบภาษีโรงเรือนฯตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินพุทธศักราช2475และที่แก้ไขเพิ่มเติมและภาษีบำรุงท้องที่ตามพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่พ.ศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2508และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยภาษีโรงเรือนฯ ใช้ค่ารายปี(จำนวนเงิน ซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ)เป็นฐานในการคำนวณภาษีซึ่งมีความซ้ำซ้อนกับการจัดเก็บภาษีเงินได้และทำให้เกิดปัญหาในการประเมินค่ารายปีและมีการจัดเก็บภาษีในอัตราคงที่ที่สูงถึงร้อยละ12.5ของค่ารายปีสำหรับภาษีบำรุงท้องที่จะใช้ราคาปานกลางของที่ดินตามที่คณะกรรมการพิจารณาราคาปานกลางของที่ดินกำหนดประจำปีพ.ศ. 2521-2524มาใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีซึ่งไม่สอดคล้องกับราคาที่ดิน ที่มีการเปลี่ยนแปลงอีกทั้งยังมีการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำและมีอัตราภาษีมากถึง34ขั้น
ภาษีที่ดินฯจึงถูกนำมาใช้แทนการจัดเก็บภาษีโรงเรือนฯ และภาษีบำรุงท้องที่เมื่อปี 2563 เป็นต้นมาเพื่อปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีฐานทรัพย์สินโดยภาษีที่ดินฯเป็นภาษีฐานทรัพย์สินมีหลักการในการจัดเก็บภาษีที่พิจารณาจากความมั่งคั่งที่สะสมไว้ของบุคคลในรูปที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งจัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างหรือผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐในวันที่1มกราคมของทุกปีโดยใช้มูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามราคาประเมินทุนทรัพย์เป็นฐานในการคำนวณภาษีและนำไปคูณกับอัตราภาษีในอัตราก้าวหน้าตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและตามการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างแต่ละประเภทรวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพก็จะถูกจัดเก็บภาษีด้วยการจัดเก็บภาษีที่ดินฯจึงทำให้ผู้เสียภาษีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงจะต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ที่มีมูลค่าทรัพย์สินต่ำและกรณีผู้เสียภาษีที่มีทรัพย์สินในลักษณะเดียวกันขนาดเท่ากันและมีการใช้ประโยชน์เหมือนกันก็จะมีภาระภาษีเท่ากันจึงเป็นระบบภาษีที่มีความเป็นธรรม
2.ในปี 2563-2565 ช่วงระยะ3ปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินฯมีการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี ได้แก่การยกเว้นการจัดเก็บภาษีสำหรับเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ. 2562(พ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ)และการบรรเทาการชำระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีที่มีภาระภาษีที่ดินฯ สูงกว่าภาษีโรงเรือนฯและภาษีบำรุงท้องที่ในปี2562(ค่าภาษีปี 2562) โดยให้ชำระภาษีที่ดินฯ เท่ากับค่าภาษีปี 2562บวกด้วยร้อยละ 25, 50 และ 75ของส่วนต่างของค่าภาษีปี2562กับค่าภาษีที่ดินฯ ในปี2563, 2564และ2565รวมถึงในปี 2563-2564 มีการลดภาษีร้อยละ 90เพื่อบรรเทาภาระและผลกระทบให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19)
3. ในส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ กทม. พบว่า ข้อมูลการจัดเก็บรายได้ภาษีที่ดินฯในปีงบประมาณพ.ศ.2563-2565ซึ่งยังคงมีการบรรเทาภาระภาษีตามข้อ 2กทม. มีรายได้ภาษีที่ดินฯจำนวนประมาณ1,256ล้านบาท1,802ล้านบาท และ 12,347ล้านบาทตามลำดับ (ข้อมูล ณ เดือน กันยายน 2565)โดยมีแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ภาษีที่สูงขึ้นและใกล้เคียงกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนฯ
และภาษีบำรุงท้องที่ที่ กทม. จัดเก็บได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวนประมาณ 15,300ล้านบาท
4.ในระยะต่อไปคาดว่ากทม.จะมีรายได้ภาษีที่ดินฯเพิ่มขึ้นจากฐานภาษีที่สูงขึ้นเนื่องจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีจะมีการปรับปรุงทุกๆ4ปีโดยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตประกอบกับกทม.ยังสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินฯจากผู้เสียภาษีที่แต่เดิมเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เคยมาแจ้งรายการทรัพย์สินเพื่อเสียภาษีโรงเรือนฯและภาษีบำรุงท้องที่อย่างไรก็ดีจากข้อมูลพบว่ากทม.อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเขต กทม.ดังนั้นหากกทม. สำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในเขตกทม.และมีฐานข้อมูลที่สมบูรณ์แล้ว จะสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ได้เพิ่มขึ้น
5.นอกจากนี้ หากกทม.ได้ดำเนินการจัดเก็บภาษีที่ดินฯครบถ้วนแล้วและยังต้องการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินฯมาตรา37วรรคหกแห่งพ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯยังให้อำนาจผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินฯให้สูงขึ้นกว่าที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2564ได้ ทั้งนี้อัตราภาษีดังกล่าวจะต้องไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในมาตรา37แห่งพ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ
ทั้งนี้ โฆษก สศค. เน้นย้ำว่า กรณีการนำภาระภาษีโรงเรือนฯ และภาษีที่ดินฯ ของผู้เสียภาษีรายใดรายหนึ่งมาเปรียบเทียบกันนั้น จะยังไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงภาระภาษีทั้งหมดเนื่องจากภาษีแต่ละประเภท มีหลักการในการจัดเก็บภาษีที่แตกต่างกัน โดยกรณีผู้เสียภาษีมีเงินได้จากการทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเช่น ให้เช่า ประกอบกิจการค้าขายเป็นต้น จะต้องนำรายได้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล แล้วแต่กรณีด้วย